January 14, 2013

Dr. Tanai Charinsarn, Strategic Management Professional, was invited to be a special guest lecturer for the high-rank government officials of the Administrative Court in the topic of “The Organization Management Techniques”. The purpose of this lecture is to develop their organizational management  knowledge and skills when working in the organization.

Organization Management  consists of many factors which are Strategic planning, Stakeholders, Process engineering, Knowledge Management,  Team Building, and Performance management. Thus, Dr. Tanai has put these ideas into the following framework for better comprehension for the audience

Strategic Planning is the method that leads the organization to success. The success that the organization see occurs by realizing its current status and the channel of the strategy which will make the organization successful in the future. However, the stakeholders’ perspective need to be concerned as well.

Stakeholders is the service receiver. As of the Administrative Court, the service receiver need to have the commitment in the Administrative Court Institution. The organization needs to learn and understand the expectations and needs of the service receiver as well as makes them realize about the value they receive.

Process Engineering is the important part for pushing the strategy to the service receiver or the stakeholders such as the Consular agencies and the Ministry of Foreign Affairs which emphasize on fast service resulting in lower cost of management and more service receiver satisfaction. However, the effective process can be achieved only when each sector cooperate systematically and understand their roles and duties.

Team Building will help support the management in the organization to be successful due to the process of cooperation across the sectors. If each sector focus only on their work, the result from the process will probably unable to reach the goal. The icebreaking  activities for developing relationships among them will enable the objectives to be achieved.

Knowledge Management is done by enabling the employee in the organization to access the information easily as nowadays there are plenty of knowledge in the organization. Knowledge sharing among each sector will help the employee develop their potentiality and make the organization management effective.

Performance Management is the method that encourages the employee in the organization by considering the accuracy of the operation as a top priority. If the objective is reached as aimed, it will affect the organization growth. On the other hand, if the objective is not reached, the organization then needs to come up with the new solution to improve the operation.

Regarding this, Dr. Tanai has Identified the aspects of management systems in various fields for both the government officials who are in the administrative management  sector or those who will advance there in the future which benefits the use in daily life considerably.

 

วันที่ 14 มกราคม 2556

ดร.ธนัย ชรินทร์สาร Strategic Management Professional ได้รับเกียรติเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษแก่ข้าราชการระดับสูงของศาลปกครอง ในหัวข้อ “เทคนิคการบริหารองค์กร”  โดยการบรรยายนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้แก่ข้าราชการระดับสูงที่ต้องเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการองค์กรในแต่ละส่วน

การบริหารองค์กรต้องประกอบด้วยหลายส่วน ทั้งด้านการวางแผนกลยุทธ์ การคำนึงถึงผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียต่อองค์กร การออกแบบกระบวนการทำงาน การจัดการองค์ความรู้ การสร้างความสัมพันธ์ของบุคลากรในหน่วยงาน และการจัดการทางด้านผลงานของบุคลากร โดยดร.ธนัย ได้มีการเสนอแนวทางไว้เป็น framework  เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนี้

แผนกลยุทธ์ (Strategic Planning) คือ ศาสตร์ที่พาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งความสำเร็จที่องค์กรมองเห็นเกิดจากการที่องค์กรรู้สถานะของตนเองในปัจจุบัน และรู้เส้นทางของแผนดำเนินการที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จในอนาคต แต่ต้องคำนึงถึงมุมมองของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรด้วย

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) คือ ผู้รับบริการ กรณีของศาลปกครองนั้น ผู้รับบริการต้องรู้สึกได้ว่าหน่วยงานศาลปกครองมีคุณค่า องค์กรต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับความคาดหวังและความต้องการของผู้รับบริการ และทำให้ผู้รับบริการรู้สึกถึงคุณค่าที่ได้รับมากขึ้น

การจัดกระบวนการทำงาน (Process Engineering) เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันแผนกลยุทธ์ไปสู่ผู้รับบริการ หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กรได้ ตัวอย่างเช่น หน่วยงานกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่เน้นการให้บริการรวดเร็วแก่ผู้รับบริการ ส่งผลให้ต้นทุนในการบริหารจัดการต่ำลง และผู้รับบริการมีความพึงพอใจเพิ่มสูงขึ้น แต่กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อแต่ละหน่วยงานมีการสอดประสานการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ และมีความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของเเต่ละคน

การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน (Team Building) จะช่วยรองรับการบริหารงานในองค์กรประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากกระบวนการ คือ การทำงานร่วมกันข้ามหน่วยงาน หากแต่ละหน่วยงานมุ่งเน้นเฉพาะเรื่องของตนเองเป็นหลัก ผลลัพธ์จากกระบวนการทำงานอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย การสร้างกิจกรรมเพื่อละลายพฤติกรรมของบุคลากรและส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างหน่วยงานจะทำให้ผลลัพธ์ในการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายได้

การจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) โดยทำให้บุคลากรภายในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่าย เนื่องจากปัจจุบัน ความรู้ในหน่วยงานมีมากมาย การแบ่งปันองค์ความรู้ของแต่ละหน่วยงานจะทำให้บุคลากรมีการพัฒนาศักยภาพของตนและส่งผลต่อการบริหารงานในองค์กรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การวัดผลลัพธ์จากการดำเนินงาน (Performance Management) เป็นวิธีการในการสร้างแรงจูงใจแก่พนักงานในองค์กร โดยวัดผลความถูกต้องของการดำเนินงานเป็นหลัก หากทำได้ผลสำเร็จจริง เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ ย่อมส่งผลต่อการเติบโตขององค์กร แต่หากไม่เป็นไปตามเป้าหมาย องค์กรจะได้มีการประเมินต่อไปว่าควรปรับปรุงให้การดำเนินงานนั้นดีขึ้นได้อย่างไร

ทั้งนี้ ดร. ธนัย ได้ระบุถึงแง่มุมของระบบการจัดการในด้านต่างๆ ทั้งสำหรับข้าราชการทุกท่านที่กำลังอยู่ในส่วนงานบริหารจัดการหรือที่กำลังจะก้าวไปสู่งานบริหารในอนาคต ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก